ข้าพเจ้าเพิ่งอ่านเรื่อง ‘รักลวง’ ของท่านทมยันตี จบไปเมื่อไม่นานมานี้ เนื้อหาคร่าวๆ ของเรื่องเป็นความรักของคนสามคน (สองหญิงและหนึ่งชาย)
‘นภลัย’ แฝดสาวผู้พี่ของนภกานต์ เธอเข้มแข็งร่าเริง และรักน้องสาวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ทุกสิ่งที่มีเธอสละให้น้องได้ไม่เว้นแม้ชีวิตตนเอง
‘นภกานต์’ แฝดน้องผู้อ่อนแอทั้งร่างกายและความคิด เป็นผู้รับมาตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้เธอต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา
‘อมรัส’ หนุ่มผู้ช้ำรักด้วยน้ำมือของนภลัย หวังให้นภกานต์มาแทนที่คนรักเก่า สุดท้ายเขาก็พบว่า หน้าตาเหมือนกันก็ใช่จะเหมือนกันทุกอย่าง ไม่มีใครมาแทนที่ใครได้
‘รักลวง’ มีขนาด 2 เล่มจบ ข้าพเจ้าเลือกหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านเพราะเห็นว่าหน้าปกสวยดี (ตามภาพประกอบด้านบนนั่นแล) แต่เมื่ออ่านจนกระทั่งถึงบรรทัดสุดท้าย ความรู้สึกเดียวที่คิดได้คือ ‘ไม่น่าหยิบมาอ่านเลย ให้ตายเถอะ!’
งานเขียนของท่านทมยันตีทุกเรื่องที่ข้าพเจ้ามีโอกาสได้อ่าน มักแฝงไว้ด้วยความเศร้าและโหยหาบางอย่าง อ่านแล้วรู้สึกโหวงๆ ลึกๆ ในหัวอก ต้องบอกตามตรงว่าข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบความรู้สึกแบบนี้นัก แม้บางเรื่องจะจบลงด้วยความสุขสมหวัง แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง คล้ายว่าลึกสุดแล้วชีวิตล้วนมีแต่ทุกข์ ไม่มีสิ่งใดเป็นสุขจีรัง นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าไม่ค่อยชอบงานท่านทมยันตีเท่าที่ควร
ถึงแม้จะไม่ชอบแต่ข้าพเจ้าก็ยอมรับด้วยความสัตย์ซื่อ ว่างานท่านสนุกและน่าติดตาม อ่านแล้วชวนให้ตามอ่านไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะตะขิดตะขวงใจกับอารมณ์เศร้าที่ลอยอวลอยู่ทั่วไปในเนื้องาน แต่อารมณ์ขันที่แทรกอยู่ทั่วอณูตัวอักษรในอัตราส่วนไม่ต่างกัน เป็นส่วนผสมคลุกเคล้าลงตัวทีเดียว พาให้ข้าพเจ้าเดินทางจนถึงหน้าสุดท้ายในทุกเล่มที่ได้อ่าน
ถ้าจะให้อ่านงานท่านเพื่อศึกษา คงได้อะไรกลับมาเยอะแยะมากมายเชียวล่ะ แต่รอยหยักที่มีอยู่น้อยนิดในสมองของข้าพเจ้า จึงกอบเก็บอะไรต่อมิอะไรกลับมาได้น้อยเต็มที
สำหรับเรื่อง ‘รักลวง’ เพราะมันจบแบบเศร้าไปหน่อย นอกจากจะไม่ได้กอบเก็บความรู้ใดๆ กลับมาแล้ว ข้าพเจ้ายังต้องเสียน้ำตาให้เรื่องนี้อีกสามกะละมัง สุดเซ็ง...!
ลืมเสียเถิด...ความหลัง ฝังดวงจิต
ลืมเสียเถิด...มิ่งมิตร ขนิษฐา
ลืมเสียเถิด...ความเศร้า ร้าวอุรา
เสียเสียเถิด...แก้วตา อย่าอาวรณ์...
*กิจกรรม ชวนอ่านหนังสือ
ขี้แย!
กิ้ว
กิ้ว
กิจกรรมชวนอ่านครั้งแรกผ่านพ้นด้วยดี หวังให้มีกิจกรรมเล็ก ๆ อย่างนี้เรื่อยไป พอให้ชีพจรเขียนเต้นไปโดยไม่เปลี่ยวเหงานัก ขอบพระคุณขะรับเรนเจ๋อจมพู
คารวะ