โอ...ใจข้าจะละลาย
ยากแท้บรรยายเป็นกลอนกล่าว
ถ้อยคำความรักชักแพรวพราว
บอกเล่าเรื่องราวกับสายลม

ชื่นฉ่ำคำหวานมาผ่านแผ่ว
กลิ่นแก้วรวยเร่ประเสประสม
โชยชื่นรื่นรายมาชายชม
พริ้มพรมพร่างเพราะเสนาะพราว

หวีดหวิววังเวงวิเวกไหว
สายลมโลมไล้เจ้ารวงข้าว
พัดปลิวเศษดินถึงดวงดาว
ส่งข่าวความรักมาทักทาย

กังวานซ่านซับรับกระแส
ย้ำความแน่วแน่กระแสสาย
แม้ทางห่างไกลเกินพบกาย
จะถอดใจวางรายให้รักเรา

เรียวหญ้าโน้มกอล้อเม็ดทราย
ในอ้อมแขนสยายของขุนเขา
นกน้อยกรายปีกเพียงแผ่วเบา
ซุกกายแนบเนากับซอกหิน

ท่ามแสงสายัณห์ตะวันพลบ
จนบรรจบราตรีมิรู้สิ้น
แผ่วพรายกรายเสียงมาเพียงพิณ
เยือนยินเพลงคลื่นคืนฟ้างาม

ลมดึกหวนคลอพะนอเน้า
รักเราบรรจบทั้งภพสาม
ล่วงพ้นมนต์ลวงของห้วงยาม
สู่แดนนิรนามข้ามฉิมพลี

แดนฝันโอบกอดความรัก
ทายทักวิมานซ่านสุขี
แม้กายเพียงเศษเถ้าธุลี
แต่รักเสรีพ้นห้วงจักรวาลฯ


@ เรไรร่อนร้อง : ในอุ้งมือเธอ

4 Responses
  1. DiN Says:

    อรุณสวัสดิ์ทั่น

    ตรงนี้..
    '..
    ซุกกายแนบเนากับซอกหิน

    ท่ามแสงสายัณห์ตะวันพลบ
    บรรจบราตรีคีตาศิลป์
    ..'
    เป็น 'สัมผัสซ้ำ' หากย้ายเสียงสัมผัสนอก เช่น..
    ..
    ซุกกายแนบเนากับซอกหิน

    ท่ามแสงสายัณห์ตะวันพลบ
    จนบรรจบราตรีมิรู้สิ้น
    ..

    เป็นไง?..เป็นไง?..
    (ยังไม่สวยเพราะไม่มีสัมผัสใน..ก็คิดไม่ออกนี่นา)
    อีกอย่าง..
    '..
    สู่แดนนิรนาม ฉิมพลี
    ..'
    หากเป็น 'แดนนิรนาม' ก็ต้องไม่มีชื่อสิจ๊ะ!

    บางที่มีฝืนความหมายเอาสัมผัส เช่น 'ในอ้อมแขนสยายของขุนเขา' ไม่แน่ใจ ลองเปิด 'สยาย' ดูนะเจ้าคะ

    โดยมาก..แพรวพราว..แพรวพราว..

    คารวะ


  2. สายแหล่วหล่าวสวัสดิ์ทั่น

    ตรง..จนบรรจบราตรีมิรู้สิ้น ..แท็งกิ้วจ้ะ

    ถ้าเปลี่ยน สู่แดนนิรนาม ฉิมพลี

    เป็น..สู่แดนนิรนามแห่งฉิมพลี ..ล่ะจ๊ะ?

    ไม่มีชื่อแต่รู้ว่าสวยงาม..ใช่ได้ไหม?

    ..แต่ลองเปิดศัพท์ดูตะกี๊ 'ฉิมพลี' แปลว่า 'ต้นงิ้ว' ซะงั้น???
    (แทนที่จะได้ไปแดนสวรรค์ เราคงไม่ต้องเปลี่ยนไปปีนต้นงิ้วกันหรอกนะจ๊ะ?)

    'สยาย' เปิดดูแล้วจ้ะ
    ก. คลี่, คลาย, ขยาย, แก้, กระจายออก.

    อันนี้ตอนแต่งมิได้เอาสัมผัสอย่างเดียวนะจ๊ะ อยากได้ความหมายด้วยจ้ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าได้อยู่ภายใต้โอบอ้อมของขุนเขา เหมือนขุนเขากางปีกปกป้อง(ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ท่านไม่รู้สึกอย่างนี้หรือจ๊ะ?)

    หรือตงิดอะไรมากกว่านี้ชี้แจงได้นะจ๊ะ ยินดีรับฟังจ้ะ

    โดยมาก..ขอบคุณจ้ะ..ขอบคุณ..

    คารแว้บแล้วนะจ๊ะ..บาย..


  3. DiN Says:

    ทราบว่าท่านใช้โดยใคร่ครวญก็พอใจแล้วล่ะขะรับ

    'ข้ามพ้นมนต์ลวงของห้วงยาม
    สู่แดนนิรนามแห่งฉิมพลี'

    ลองเป็น..

    ล่วงพ้นมนต์ลวงของห้วงยาม
    สู่แดนนิรนามข้ามฉิมพลี

    เป็นไง? (สัมผัสในงามงดไหมท่านที่เคารพ?)

    เรียนถาม..ไยท่านใส่กุญแจ 'กระต๊อบสายลม' เสียล่ะขะรับ?

    เวลาเน็ตข้าพเจ้าหมดเกลี้ยงแล้วทั่น ตอนนี้ขอดก้นหม้อทีละนาที ขยักไว้โพสท์บล็อกวันละเอ็นทรี่จนกว่าจะหมด หากหายไป ไม่ต้องกังวลนะทั่น แล้วจะกลับมาใหม่ต้นเดือน (ยังไงฝากกระต๊อบซอมซ่อด้วยนะขะรับ หากมีอะไรขัดข้องอีกรบกวนท่านแจ้งไว้ที)

    คารวะ


  4. DiN Says:

    เข้างานสายสวัสดิ์ทั่นสายที่เคารพเทอดทูน

    รับทราบว่านิยายท่านใกล้จบแล้วก็ให้ยินดีปรีดิ์เปรม ข้าพเจ้ายังจำห้วงยามจบนิยายเรื่องแรกได้ดี

    เต็มด้วยความฮึกเหิม อิ่มหนำ มาดมั่น

    กระทั่งคิดฝันว่าเรื่องต่อไปจะต้องยาวกว่าเรื่องเดิม จะต้องจบได้อีกแน่นอน มั่นใจ!

    จากนั้นนั่งหัวหกก้นขวิด ถูลู่ถูกังกับเรื่องแล้วเรื่องเล่าไปต่อไม่ได้จบไม่ลงสักที จรุงใจตอนเขียนคำ -จบ- ปิดท้ายเรื่องยังกรุ่นอยู่ปลายจมูก ยังยวนถวิลไม่รู้วาย เป็นกลิ่นหอมบางเบาคล้ายล่องลอยมาจากดินแดนแสนไกล นานเหลือเกินแล้วข้าพเจ้าไม่เคยได้สูดดม

    ยังคอยสดับรอยเท้าแห่งนิยายท่านอยู่เสมอ

    จอมยุทธ์น้อยฝนกระบี่เดียวดาย
    คารวะ


แสดงความคิดเห็น