มิ่งมิตรแห่งรัก

ฉันระลึกอยู่เสมอว่าตนเองนั้นยังเขลาในหลายสิ่ง มีเรื่องราวอีกมากมายที่ฉันต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ ฉันเชื่อว่าชีวิตดำรงอยู่เพื่อการเรียนรู้ แสวงหา และเติมเต็ม เติมเต็มในที่นี้หาใช่ความอยากความปรารถนาแห่งใจตน แต่ฉันหมายถึงเติมจิตวิญญาณทีมันยังขาดยังพร่องอยู่ให้เต็มเปี่ยม เพื่อว่าจะได้ปล่อยวางในทุกสิ่ง

ยอดปิยมิตรคนดี ครั้งหนึ่งฉันแสวงหา แล้วต่อมาฉันก็ได้พบ ‘มิตรแห่งรัก’ มิตรที่สอนให้ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายต่อหลายอย่างที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยให้ความสำคัญ เราสื่อสารกันผ่านตัวอักษรเพียงไม่นาน แต่จดหมายเพียงไม่กี่ฉบับนั้น ทำให้ฉันซึมซับความรู้สึกหลากหลายยามได้อ่าน-เขียน เรารู้จักผู้อื่นได้จากการอ่าน เรารู้จักตนเองได้จากการเขียน ฉันไม่มั่นใจว่าคำกล่าวนี้ถูกต้องนัก แต่ฉันก็ได้พิสูจน์ด้วยตนเองมาแล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เราถูกฟูมฟักและเจริญเติบโตมาในโลกต่างใบ ไม่ใช่เรื่องประหลาดอันใดที่ความคิดอ่านของเราจะแตกต่างกัน แต่มันหาได้แตกต่างโดยสิ้นเชิงเสียทีเดียวหรอก บางเรื่องฉันยังคิดคล้ายเธอ และเชื่อว่าบางเรื่องเธอก็คิดคล้ายฉัน เรื่องราวที่เธอบอกเล่ามาในจดหมายฉบับล่าสุด ทำให้ฉันรู้ว่าเธอใช้ ‘ภาษาพิเศษ’ ที่ติดตัวสิ่งมีชีวิตทุกผู้นามมาแต่ถือกำเนิดสื่อสารกับสิ่งรอบตัว ต่างกับฉันที่ให้ความสำคัญกับภาษาพูดซึ่งเกิดจากการคิดค้น ดัดแปลง ของมนุษยชาติเป็นอันดับต้น

เรื่องเล่าของเธอทำให้ฉันประหวัดถึงวัยเยาว์ ที่ครั้งหนึ่งฝนตกหนักข้ามวันข้ามคืน จนน้ำนองหลากท่วมหลายพื้นที่ ลูกไก่ตัวหนึ่งเพิ่งแยกจากอกแม่หากินเองได้ไม่นาน หลงจากฝูงไก่ด้วยกัน มันไม่ได้อยู่ในที่ที่พ่อเตรียมไว้ให้พวกมันอาศัยกันปรอยฝน พ่อและแม่จึงตระเวนตามหาและพบมันซุกกายกกตัวเองอยู่ในดงกล้วย

ขนนุ่มๆ ของมันเปียกโชกไปหมด มันยืนสั่นงกๆ น่าเวทนายิ่งนัก แม่พยายามเช็ดขนเปียกๆ ให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหาเสื้อผ้าเก่าๆ ที่เราไม่ใช้แล้วมารองในตะกร้าใบหนึ่ง จับมันวางไว้ข้างใน เอาผ้าอีกผืนมาคลุมตัวมันไว้ให้โผล่มาแค่หัว จนถึงตอนนั้นมันก็ยังยืนสั่นเป็นเจ้าเข้า พ่อแยกไปหาดวงไฟต่อสายมาจนถึงตะกร้าที่เราวางลูกไก่ตัวนั้นไว้ พ่อบอกว่า ความร้อนจากดวงไฟจะทำให้มันอบอุ่นขึ้น ก่อนเราปล่อยมันทิ้งไว้ตรงนั้น พ่อยังไปหายาพาราฯละลายน้ำมากรอกใส่ปากให้มันกิน และแม้ว่าเราจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น แม่ก็ยังเดินวนเวียนไปดูมันรอบแล้วรอบเล่าเกือบทั้งคืน

ฉันไม่รู้ว่าที่พ่อกับแม่ทำไปทั้งหมดจะช่วยมันให้รอดได้หรือเปล่า แต่อย่างหนึ่งที่ฉันรับรู้ได้ตอนนั้นคือความอาทร ห่วงใย ที่พ่อกับแม่มีให้เจ้าลูกไก่ตัวน้อย

ใช่เลยสหายรัก ฉันเข้าใจได้โดยพ่อกับแม่ไม่ต้องเอ่ยปาก ภาษาของท่านสื่อสารผ่านการกระทำมาให้ฉันรับรู้

แน่ล่ะ ภาษานี้ย่อมตราตรึงแนบแน่นอยู่ในใจของคู่สื่อสาร เพราะมันเป็นภาษาสากลของจักรวาล อาบซ่านอยู่ในดวงใจของทุกชีวิตมาแต่ถือกำเนิด ไม่จำเป็นต้องมีใครมาสอนสั่ง เราเรียนรู้ได้เองโดยธรรมชาติ ต่างจากภาษาที่ฉันใช้ที่เพียงแค่ออกจากปากมันจะกลืนหายไปกับสายลมอย่างไร้ร่องรอย หากดีขึ้นมาหน่อยถ้ามันจะชำแรกเข้าไปฝังอยู่ในความทรงจำของใครบางคน กาลเวลาจะทำหน้าที่ต่อจากสายลมลบมันทิ้งไป

แต่ไม่ว่าจะภาษาไหนๆ ต่อให้เลิศเลอยังไง ก็ย่อมมีข้อจำกัดบางประการทำให้การสื่อสารผิดเพี้ยน เธอเคยคิดบ้างไหม หากใครบางคนที่เธอสื่อสารด้วยหาได้เปิดช่องความถี่เดียวกับสัญญาณที่เธอส่งมา ผลมันจะเป็นยังไง จะสื่อสารกันได้หรือ? ไม่ว่าผู้ส่งหรือผู้รับล้วนต้องปรับคลื่นสัญญาณให้ตรงกัน เธอสื่อสารกับสิ่งหนึ่งเข้าใจก็ใช่จะใช้วิธีเดียวกันนั้นมาสื่อสารให้อีกคนเข้าใจตรงกัน เหมือนที่เธอกล่าวในตอนต้นของจดหมาย ผีเสื้อแต่ละตัวใช่จะชมชอบเกสรดอกไม้จากต้นเดียวกัน ฉันใดก็ฉันนั้น

ตั้งแต่ครั้งที่พ่อกับแม่ช่วยกันประคบประหงมลูกไก่ตัวนั้น หัวใจฉันก็เปิดกว้างเพื่อรับสัญญาณใจที่อาจมีใครอีกหลายคนสื่อสารผ่านอณูอากาศ วินาทีนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าในหลากสัญญาณเหล่านั้น มีสัญญาณของเธอแทรกซึมอยู่ด้วย เพียงแต่ฉันต้องปรับคลื่นความถี่อีกนิดหน่อยเพื่อให้ตรงกับคลื่นสัญญาณที่เธอส่งออกมา

หวังว่าอีกไม่นานภาษาที่เราสื่อสารจะสอดรับตรงกัน

คิดถึงอยู่ไม่คลาย
ระเบียงดาว
เริ่มกุมภาฯ เดือนแห่งรัก ดาวสีน้ำเงิน


@ จดหมายจากดาวสีดิน : เปิดใจ..แล้วเธอจะได้ยิน

0 Responses

แสดงความคิดเห็น