๑๏ อุษาสางรางแสงอุ่นแรงอ่อน
เลื่อมระยับซับซ่อนรุ้งยอนสาย
รังสีแรกแทรกฟ้าพรรณราย
อรุณฉายกรายโฉมประโลมลาน
๒๏ แผ่วสายลมโลมลูบบุปผชาติ
ปทุมมาศไหวเรียงเคียงผสาน
วิหกว่ายคุ้งฟ้าคคนานต์
เริ่มเพลงกาลรวิวารละลานตา
๓๏ ตื่นเถอะเจ้าเพราโฉมมยุรฉาย
อุษาร่ายพรายเล่ห์สิเน่หา
พร่างอำพรางจางม่านหม่นมนต์ทิวา
จงลืมตาเถิดพธูดูตะวัน
๔๏ ผ่านค่ำคืนตื่นใจอาลัยนัก
หวามเงารักลวงเหงาล่วงเงาฝัน
ที่พร่ำพรอดกอดใกล้คือใครกัน
จะไม่ถามย้ำยันให้หวั่นใจ
๕๏ เพียงตระคองพธูมาสู่เช้า
จะพาเจ้าว่ายทิวาอุษาสมัย
ล่วงดำเนินเพลินล่องท่องครรไล
คเนจรร่อนไปในความจริง
๖๏ ท่ามทิวาที่เห็นเช่นประจักษ์
เจ้าแสนรักจงมองทอดเถิดยอดหญิง
อาจร้อนแดดแผดจ้าน่าชังชิง
เพียงทุกสิ่งจังจริงใช่สิ่งลวง
๗๏ ด้วยหัวใจดวงนี้นี่แหละเจ้า
ที่จะเฝ้าเคล้าคลอพนอหวง
พาเจ้าผ่านคืนวันฝันทั้งปวง
จนเลยล่วงลุมรรคาอักขราภิรมย์
๘๏ สู่โลกกว้างลานรักทุ่งอักษร
เลื่อมลายกลอนรัถยาปัทมามาลย์ประสม
เราโลดเล่นเริงร่ายในสายลม
บนผืนพรมอักษราพัตราภรณ์
๙๏ จวบสายัณห์เยือนหล้าจนคราพลบ
พระสุรีย์เลื่อนลบเหลี่ยมสิงขร
ม่านเงาคลี่คลุมยอดยุคนธร
ก่อไฟฟอนกล่อมเจ้าเข้านิทรา
๑๐๏ โอ้..ดึกดื่นคืนคล้อยดาวลอยคว้าง
อย่าแรมร้างห่างเหสเน่หา
พร่างอำพันจันทร์สว่างกระจ่างตา
จะครวญกลอนกล่อมกานดานิทรารมย์
๑๑๏ แม้ตาหลับมือกลับกระชับมั่น
ในโลกฝันอย่าหวั่นเลยหวานขม
จะเคียงข้างจวบเช้าคอยเฝ้าชม
ย้ำปรารมภ์ยืนยัน..ใช่ฝันไป ฯ
วิมานดาวเคล้ากลิ่นดิน
ค่ำฝนจาง กลางฤดูใจ
-------------
โดย ธุลีดิน : เรไรร่อนร้อง : ย้ำปรารมภ์ยืนยัน..ใช่ฝันไป
เลื่อมระยับซับซ่อนรุ้งยอนสาย
รังสีแรกแทรกฟ้าพรรณราย
อรุณฉายกรายโฉมประโลมลาน
๒๏ แผ่วสายลมโลมลูบบุปผชาติ
ปทุมมาศไหวเรียงเคียงผสาน
วิหกว่ายคุ้งฟ้าคคนานต์
เริ่มเพลงกาลรวิวารละลานตา
๓๏ ตื่นเถอะเจ้าเพราโฉมมยุรฉาย
อุษาร่ายพรายเล่ห์สิเน่หา
พร่างอำพรางจางม่านหม่นมนต์ทิวา
จงลืมตาเถิดพธูดูตะวัน
๔๏ ผ่านค่ำคืนตื่นใจอาลัยนัก
หวามเงารักลวงเหงาล่วงเงาฝัน
ที่พร่ำพรอดกอดใกล้คือใครกัน
จะไม่ถามย้ำยันให้หวั่นใจ
๕๏ เพียงตระคองพธูมาสู่เช้า
จะพาเจ้าว่ายทิวาอุษาสมัย
ล่วงดำเนินเพลินล่องท่องครรไล
คเนจรร่อนไปในความจริง
๖๏ ท่ามทิวาที่เห็นเช่นประจักษ์
เจ้าแสนรักจงมองทอดเถิดยอดหญิง
อาจร้อนแดดแผดจ้าน่าชังชิง
เพียงทุกสิ่งจังจริงใช่สิ่งลวง
๗๏ ด้วยหัวใจดวงนี้นี่แหละเจ้า
ที่จะเฝ้าเคล้าคลอพนอหวง
พาเจ้าผ่านคืนวันฝันทั้งปวง
จนเลยล่วงลุมรรคาอักขราภิรมย์
๘๏ สู่โลกกว้างลานรักทุ่งอักษร
เลื่อมลายกลอนรัถยาปัทมามาลย์ประสม
เราโลดเล่นเริงร่ายในสายลม
บนผืนพรมอักษราพัตราภรณ์
๙๏ จวบสายัณห์เยือนหล้าจนคราพลบ
พระสุรีย์เลื่อนลบเหลี่ยมสิงขร
ม่านเงาคลี่คลุมยอดยุคนธร
ก่อไฟฟอนกล่อมเจ้าเข้านิทรา
๑๐๏ โอ้..ดึกดื่นคืนคล้อยดาวลอยคว้าง
อย่าแรมร้างห่างเหสเน่หา
พร่างอำพันจันทร์สว่างกระจ่างตา
จะครวญกลอนกล่อมกานดานิทรารมย์
๑๑๏ แม้ตาหลับมือกลับกระชับมั่น
ในโลกฝันอย่าหวั่นเลยหวานขม
จะเคียงข้างจวบเช้าคอยเฝ้าชม
ย้ำปรารมภ์ยืนยัน..ใช่ฝันไป ฯ
วิมานดาวเคล้ากลิ่นดิน
ค่ำฝนจาง กลางฤดูใจ
-------------
โดย ธุลีดิน : เรไรร่อนร้อง : ย้ำปรารมภ์ยืนยัน..ใช่ฝันไป
ข้าพเ้จ้าภูมิใจภาพประกอบมากเลยนะทั่น อรุณฉายเป็นกลีบกุหลาบ คิดได้ไง! คิดได้ไง! (หากไม่บ๊องคงคิดไม่ออก)
อรุณฉายเป็นกลีบกุหลาบรึ?
ข้าพเจ้ากลับนึกถึงความรักที่ร้อนแรงดุจเปลวไฟ เผาไหม้ใจให้ทุรนทุรายนะทั่น ภาพนี้ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงวังวนของความรัก