สวัสดีเพื่อนต่างดาว

ขณะที่ฉันเขียนจดหมายถึงเธออยู่นี้นาฬิกาบอกเวลา 0.00 น.

ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเริ่มต้นจดหมายด้วยการกล่าวถึงเรื่องเวลา คงเพราะตอนคิดเขียนฉันยังไม่รู้จะคุยกับเธอด้วยเรื่องอะไรกระมัง เมื่อเหลือบเห็นเวลาจึงเอามันมาเป็นบทนำ

0.00 น. เหมือนมันเป็นเวลาสำหรับการเริ่มต้นเลยเธอว่าไหม? เริ่มต้นสิ่งดีๆ อะไรสักอย่าง และฉันก็เลือกที่จะพูดคุยกับเธอ ไม่ต้องยิ้มแก้มป่องขนาดนั้น ฉันรู้ว่าเธอดีใจ และฉันมีความสุขที่ได้รับรู้

เธอรู้สึกบ้างไหม เวลาในชีวิตผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน วันแล้ววันเล่าที่ดวงอาทิตย์หายลับไปกับขอบฟ้าแสนไกลฉันได้แต่นั่งถอดถอนใจ และเมื่อดวงอาทิตย์กลับมาอยู่เป็นเพื่อนอีกครั้งในเช้าวันใหม่ ฉันก็ปล่อยให้แต่ละนาทีผ่านไปเหมือนไร้จุดหมาย เพียงเพื่อจะกลับไปนั่งทอดถอนใจในยามพลบเหมือนเช่นที่ผ่านมา วงจรโง่งมและบัดซบ ทั้งที่รู้แต่ไม่เคยสลัดพ้น

อาจจะจริงที่ว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างจากสิ่งคุ้นเคยต้องใช้กำลังใจมหาศาล และฉันก็เป็นประเภทพวกขาดแคลนกำลังใจที่ว่านั้นเหลือประมาณ

เราจมปลักอยู่ในวังวนคุ้นเคย และยึดถือมันเป็นสรณะด้วยความชาชิน แม้ผลลัพธ์ตอนท้ายจะเป็นเช่นไร เราก็เตรียมข้ออ้างไว้ให้ตัวเองพร้อมสรรพแล้ว นั่นคือกลวิธีปกป้องตนเองที่มนุษย์กระทำ และเธอจะทายถูกเผงเลย ถ้ากำลังคิดว่าฉันก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญกลวิธีที่ว่านั่น

บางทีอาจเป็นเพราะชีวิตฉันมีเวลาเหลือเฟือสำหรับให้กระทำทุกสิ่งตามใจปรารถนา จนมองไม่เห็นคุณค่าของมัน ไม่รู้สึกว่าเวลามีค่ามากมายเพียงใด และได้แต่เฝ้างุนงงสงสัย เมื่อใครๆ ต่างพากันโอดครวญว่าไม่มีมัน เมื่อใครๆ ต่างก็เร่งทำโน่นทำนี่เพียงเพื่อให้พอกับเวลาที่จำกัดจำเขี่ยของตน

อาจบางทีเพราะฉันไม่รู้วันสุดท้ายของชีวิต ฉันจึงหลงระเริงอยู่ในความไม่รู้นั้น และคิดว่ามันคงยาวนาน ยาวนานจนพอจะให้ฉันกระทำทุกสิ่งที่ตั้งใจได้หมดสิ้น แม้ฉันจะไม่เริ่มต้นสิ่งที่ตั้งใจในวันนี้ เวลานั้นก็ยังเพียงพอสำหรับฉันอยู่ดี

เห็นไหม? นั่นคือการคิดเข้าข้างตัวเองที่โง่เง่าและเลวร้ายที่สุด!

ในเมื่อเวลาไม่เคยรอท่าทุกสิ่ง และเวลาไม่เคยหวนคืนมาใหม่ ถ้าทุกวินาทีที่ผ่านเลยไปทิ้งไว้เพียงความเปล่าไร้ นั่นคือความล้มเหลวที่สุดในชีวิต ไม่ใช่หรือ?

แม้จะรู้ว่ามันคือความล้มเหลว ฉันก็ยังคงนอนกระดิกเท้าด้วยความไม่แยแส ก็บอกแล้วไงว่าฉันคือผู้เชี่ยวชาญกลวิธีปกป้องตนเอง ฉันมีข้ออ้างเตรียมไว้เป็นตันสำหรับความล้มเหลวที่ว่า เพื่อบูชาตนเองไว้ในความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีมือของความสำนึกผิดใดๆ จะอาจเอื้อมมาถึง

แต่เชื่อไหม? ในความบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้น ฉันกลับทรมาน

0.00 น. สำหรับการเริ่มต้น ฉันหวังจะสลัดความทรมานนั้นออกไปพ้นจากความรู้สึก ฉันหวังว่าจะสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้เพียงพอสำหรับการเปลี่ยนแปลงสักสิ่ง ฉันหวังให้ทุกวินาทีที่ผ่านเลยไปได้ทิ้งบางอย่างไว้ให้ฉันได้ภาคภูมิใจเมื่อหันกลับไปมอง

เธอจะเริ่มต้นสิ่งดีๆ ที่ว่านี้ไปด้วยกันไหม?


ด้วยความระลึกถึง
เพื่อนต่างดาวของเธอ
ปลายกรกฎาฯ ๒๕๕๒

1 Response
  1. DiN Says:

    http://tuleedin.blogspot.com/2009/08/blog-post_05.html


แสดงความคิดเห็น