สวัสดีสหายรัก
ฉันนั่งมองท้องฟ้า และกำลังสงสัยว่าเธออยู่มุมไหนของจักรวาลกว้างใหญ่นี้กัน เบื้องหน้าที่สายตาฉันทอดมองไป? มุมซ้าย? มุมขวา? หรือมุมที่ฉันอาจไม่เคยเหลือบแลเลย?
จะว่าไป มุมไหนก็คงไม่ต่างกัน เพราะฉันไม่เห็นอะไรมากไปกว่าท้องฟ้าสีคราม กับปุยเมฆขาวนวลตา คล้ายก้อนนุ่นขยุกขยุยที่ฉันเคยนั่งอัดใส่หมอนเมื่อตอนเล็กๆ ถ้าก้อนเมฆเป็นสำลีจะนุ่มสักแค่ไหนหนอ? เอามาทำหมอนคงนอนฝันดีจนไม่อยากตื่น
เธอเคยนั่งมองก้อนเมฆบ้างหรือเปล่า? ...คงต้องเคยบ้างล่ะ ถ้าเธอยังดื้อดึงบอกว่า ‘ไม่เคย’ ฉันก็คงต้องบอกให้เธอรู้ตัวแล้วล่ะ ว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดที่สุดในจักรวาล
รู้อะไรมั้ย? ครั้งหนึ่งฉันเคยนึกฝันอยากเป็นนกน้อยทะยานไปให้สุดขอบฟ้าไกล แต่ครั้งเดียวกันนั้นที่ฉันหวาดกลัวก้อนเมฆรูปร่างประหลาดตา ฉันเกลียดเมฆรูปตัวหนอน รูปพญามังกร รูปงูยักษ์ และทุกก้อนที่ฉันวาดภาพไปว่ามันต้องเป็นสัตว์ประหลาดไม่ชนิดใดก็ชนิดหนึ่ง สุดท้ายฉันจำต้องพับฝันนั้นทิ้งไป เพราะขยาดที่จะไปต่อกรกับกองทัพสัตว์นอกโลกเหล่านั้น
ถ้าเพียงตอนนั้นฉันเปลี่ยนความคิดจาก ‘ต่อกร’ เป็น ‘ผูกมิตร’ ป่านนี้ฉันคงมีเพื่อนเป็นอนาคอนด้า กับพญามังกรพ่นไฟไปแล้ว เนอะ
เธอเชื่อมั้ย? ฉันเคยกระโจนขึ้นจากน้ำที่ดำผุดดำว่ายอยู่ทันทีเมื่อคิดว่า พญางูยักษ์บนท้องฟ้ากำลังนอนกบดานอยู่ก้นบ่อ ตั้งแต่นั้นมาฉันไม่กล้าลงเล่นน้ำคนเดียวอีก ไม่กล้าแม้จะจุ่มมือลงในตุ่มที่มีขุ่นตะกอนดำมืดจนมองไม่เห็นผิวพื้นด้านล่าง ฉันคิดว่าต้องมีตัวอะไรสักตัวนอนนิ่งอยู่ในนั้นแน่ ถ้าฉันทะเล่อทะล่าแหย่มือลงไปอาจโดนมันงับจนขาด
แม้บางครั้งจินตนาการจะทำให้ฉันหวาดกลัว แต่ฉันก็ยังรักมันสุดใจ ฉันไม่เคยขัดขวาง ถ้ามันจะโบยบินไปสุดหล้าฟ้าเขียวจนห่อเหี่ยวเหนื่อยล้ากลับมา และฉันไม่เคยนึกเบื่อที่ต้องคอยประคบประหงมก่อนปล่อยให้มันโผบินครั้งแล้วครั้งเล่า
สหายรัก เธอเคยจินตนาการถึงฉันบ้างไหม?
สำหรับฉัน ขอยอมรับด้วยความจริงใจ ไม่เฉไฉบิดเบือน ทุกครั้งที่ฉันระลึกถึงเธอ ทุกตัวอักษรที่เขียน นั่นคือทุกวินาทีที่จินตนาการฉันทำหน้าที่ แน่นอน ทุกภาพล้วนงดงามกระจ่างแจ่ม แต่ฉันไม่เคยยึดติดกับมันเลยแม้สักน้อยนิด
หากวันใดวันหนึ่งในอนาคตเบื้องหน้า วิถีโคจรของดวงดาวเกิดแรงเหวี่ยงขนานใหญ่ ทำให้ทางเดินสองสายบนดาวสองดวงมาบรรจบกัน ณ ระนาบเดียว ฉันจะไม่ถามว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ฉันคงดีใจมหาศาล พร้อมกับที่ต้องเสียใจเกินบรรยาย เพราะจินตนาการของฉันถูกทำลายลง ณ วินาทีนั้น
เธอคงน้อยใจว่าฉันไม่อยากพบเธอ เปล่าเลยสหายรัก บางจังหวะ การพบเจอก็หาได้มีประโยชน์อันใดมากไปกว่า ทำหน้าที่เป็นบทเริ่มต้นของการอำลา
บางครั้งการปล่อยให้บางสิ่งงดงามอยู่ในจินตนาการก็เป็นเรื่องเหมาะสมสุดแล้ว ยังไง...เราก็พบกันเสมอในความคิดถึง
แน่ะ! ดูสิ... เริ่มต้นบนท้องฟ้า แต่ฉันกลับพาเธอเลี้ยวออกทะเลเสียนี่ นี่ถ้าฉันยังเขียนยาวกว่านี้ เราคงได้ไปลอยคอเท้งเต้งกันกลางมหาสมุทรแหงแซะ!
คิดถึงเธอนะ
เพื่อนเธอบนดาวสีหม่น
ปฐมพฤศจิกาฯ ๒๕๕๒
ป.ล. ลมหนาวมาเยือนดาวของฉันแล้วล่ะ แต่มันมาแค่วันเดียว ตอนนี้สะบัดตูดหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ถ้ามันผ่านไปทางดาวของเธอ รบกวนบอกมันหน่อยซี ว่าคนบนดาวดวงนี้ยังไม่หายคิดถึงเลย
ฉันนั่งมองท้องฟ้า และกำลังสงสัยว่าเธออยู่มุมไหนของจักรวาลกว้างใหญ่นี้กัน เบื้องหน้าที่สายตาฉันทอดมองไป? มุมซ้าย? มุมขวา? หรือมุมที่ฉันอาจไม่เคยเหลือบแลเลย?
จะว่าไป มุมไหนก็คงไม่ต่างกัน เพราะฉันไม่เห็นอะไรมากไปกว่าท้องฟ้าสีคราม กับปุยเมฆขาวนวลตา คล้ายก้อนนุ่นขยุกขยุยที่ฉันเคยนั่งอัดใส่หมอนเมื่อตอนเล็กๆ ถ้าก้อนเมฆเป็นสำลีจะนุ่มสักแค่ไหนหนอ? เอามาทำหมอนคงนอนฝันดีจนไม่อยากตื่น
เธอเคยนั่งมองก้อนเมฆบ้างหรือเปล่า? ...คงต้องเคยบ้างล่ะ ถ้าเธอยังดื้อดึงบอกว่า ‘ไม่เคย’ ฉันก็คงต้องบอกให้เธอรู้ตัวแล้วล่ะ ว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดที่สุดในจักรวาล
รู้อะไรมั้ย? ครั้งหนึ่งฉันเคยนึกฝันอยากเป็นนกน้อยทะยานไปให้สุดขอบฟ้าไกล แต่ครั้งเดียวกันนั้นที่ฉันหวาดกลัวก้อนเมฆรูปร่างประหลาดตา ฉันเกลียดเมฆรูปตัวหนอน รูปพญามังกร รูปงูยักษ์ และทุกก้อนที่ฉันวาดภาพไปว่ามันต้องเป็นสัตว์ประหลาดไม่ชนิดใดก็ชนิดหนึ่ง สุดท้ายฉันจำต้องพับฝันนั้นทิ้งไป เพราะขยาดที่จะไปต่อกรกับกองทัพสัตว์นอกโลกเหล่านั้น
ถ้าเพียงตอนนั้นฉันเปลี่ยนความคิดจาก ‘ต่อกร’ เป็น ‘ผูกมิตร’ ป่านนี้ฉันคงมีเพื่อนเป็นอนาคอนด้า กับพญามังกรพ่นไฟไปแล้ว เนอะ
เธอเชื่อมั้ย? ฉันเคยกระโจนขึ้นจากน้ำที่ดำผุดดำว่ายอยู่ทันทีเมื่อคิดว่า พญางูยักษ์บนท้องฟ้ากำลังนอนกบดานอยู่ก้นบ่อ ตั้งแต่นั้นมาฉันไม่กล้าลงเล่นน้ำคนเดียวอีก ไม่กล้าแม้จะจุ่มมือลงในตุ่มที่มีขุ่นตะกอนดำมืดจนมองไม่เห็นผิวพื้นด้านล่าง ฉันคิดว่าต้องมีตัวอะไรสักตัวนอนนิ่งอยู่ในนั้นแน่ ถ้าฉันทะเล่อทะล่าแหย่มือลงไปอาจโดนมันงับจนขาด
แม้บางครั้งจินตนาการจะทำให้ฉันหวาดกลัว แต่ฉันก็ยังรักมันสุดใจ ฉันไม่เคยขัดขวาง ถ้ามันจะโบยบินไปสุดหล้าฟ้าเขียวจนห่อเหี่ยวเหนื่อยล้ากลับมา และฉันไม่เคยนึกเบื่อที่ต้องคอยประคบประหงมก่อนปล่อยให้มันโผบินครั้งแล้วครั้งเล่า
สหายรัก เธอเคยจินตนาการถึงฉันบ้างไหม?
สำหรับฉัน ขอยอมรับด้วยความจริงใจ ไม่เฉไฉบิดเบือน ทุกครั้งที่ฉันระลึกถึงเธอ ทุกตัวอักษรที่เขียน นั่นคือทุกวินาทีที่จินตนาการฉันทำหน้าที่ แน่นอน ทุกภาพล้วนงดงามกระจ่างแจ่ม แต่ฉันไม่เคยยึดติดกับมันเลยแม้สักน้อยนิด
หากวันใดวันหนึ่งในอนาคตเบื้องหน้า วิถีโคจรของดวงดาวเกิดแรงเหวี่ยงขนานใหญ่ ทำให้ทางเดินสองสายบนดาวสองดวงมาบรรจบกัน ณ ระนาบเดียว ฉันจะไม่ถามว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ฉันคงดีใจมหาศาล พร้อมกับที่ต้องเสียใจเกินบรรยาย เพราะจินตนาการของฉันถูกทำลายลง ณ วินาทีนั้น
เธอคงน้อยใจว่าฉันไม่อยากพบเธอ เปล่าเลยสหายรัก บางจังหวะ การพบเจอก็หาได้มีประโยชน์อันใดมากไปกว่า ทำหน้าที่เป็นบทเริ่มต้นของการอำลา
บางครั้งการปล่อยให้บางสิ่งงดงามอยู่ในจินตนาการก็เป็นเรื่องเหมาะสมสุดแล้ว ยังไง...เราก็พบกันเสมอในความคิดถึง
แน่ะ! ดูสิ... เริ่มต้นบนท้องฟ้า แต่ฉันกลับพาเธอเลี้ยวออกทะเลเสียนี่ นี่ถ้าฉันยังเขียนยาวกว่านี้ เราคงได้ไปลอยคอเท้งเต้งกันกลางมหาสมุทรแหงแซะ!
คิดถึงเธอนะ
เพื่อนเธอบนดาวสีหม่น
ปฐมพฤศจิกาฯ ๒๕๕๒
ป.ล. ลมหนาวมาเยือนดาวของฉันแล้วล่ะ แต่มันมาแค่วันเดียว ตอนนี้สะบัดตูดหายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ถ้ามันผ่านไปทางดาวของเธอ รบกวนบอกมันหน่อยซี ว่าคนบนดาวดวงนี้ยังไม่หายคิดถึงเลย
โอย...
เมื่อไหร่จะอัปบล็อก?
รอท่านไง
บล็อกท่านได้ฤกษ์เมื่อไหร่ บล็อกข้าพเจ้าก็เมื่อนั้นแหละ
; )
อัปแร้วววววววว!
หายปวดท้องรึยังจ๊ะ
อย่าลืมทานยาตามหมอสั่ง ดื่มน้ำเยอะๆ และอย่ากินเผ็ดนะขอรับ
ไม่เป็นไรกินเข้าไปเลย ข้าพเจ้าอนุญาต
จดหมายจากดาวสีดิน : เพื่อเก็บเธอไว้..ตลอดไป
http://tuleedin.blogspot.com/2009/11/blog-post_09.html
หวัดดีท่านนารินทร์ท่านธุลี
ขอบคุณสำหรับความห่วงใยเจ้าค่ะท่านอ้ายฯ
และก็นี่แน่ะท่านดิลล์ อนุญาตให้กินเผ็ดได้เกิดกระเพาะข้าพเจ้าพังขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบละท่าน? เอากระเพาะท่านมาแทนก็คงไม่ได้ รู้มาว่ามันก็จะพังมิพังแหล่อยู่ไม่ใช่รึ?!
(อิอิ)