๏ โอบกอดความเหงาอยู่เปล่าดาย
ขับเคี่ยวความงมงายเหมือนไร้ผล
กอดซับรับรสกรดกร่น
จมปลักวังวนจินตนา

โอบกอดความเศร้าซุกเงาหลืบ
ปล่อยใจสานสืบปรารถนา
ปลดเปลื้องวิญญาณผ่านมรรคา
เหลือรอยเวทนาในเงาใจ

โอบกอดความเดียวดายโดยดายเดียว
ในความเปล่าเปลี่ยวและหวั่นไหว
ซุกซ่อนอารมณ์ข่มไว้
โหยไห้อันใดปลอบประโลม

จองจำดวงใจในวิถี
รุมสุมอัคคีถั่งโถม
แผดเผารุ่มร้อนรันโรม
หวังใดบรรโลมให้บรรเทา

รอยบาปกำซาบอาบจิต
ล่องนาวาชีวิตอับเฉา
สำนึกสึกกร่อนแหว่งเว้า
ร้อนเร่าเคล้าคลุกราคี

เลอะเลือนในห้วงความคิด
เสพติดตัณหาเปรมปรี่
มัวเมาเริงร่านสามานย์อัปรีย์
ถมถ่อยธุลีเลี้ยงวิญญาณ์

ดวงใจดวงจิตหมองไหม้
ท่ามทางฝันใฝ่แสวงหา
ท่ามทางดุ่มด้นผ่านพ้นมา
ทิ้งรอยเวทนาหว่างซอกใจ

ลึกสุด ณ ห้วงสำนึก
ตะกอนผลึกโหยไห้
ระงมกรีดร่ำอยู่รำไป
ทุกเสี้ยวหายใจในชีวิต!


ในเรื่องราว:
0 Responses

แสดงความคิดเห็น